พืชเจริญเติบโตได้ดีหากปลูกในสภาพพื้นที่ที่มีปัจจัยที่สนับสนุนให้พืชเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม คือ ต้องมีทั้งแสงแดด อากาศ น้ำ และต้องมีธาตุอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน นำไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงและดูดซึมธาตุอาหารที่จำเป็น ๆ แต่บางพื้นที่อาจมีข้อจำกัดในเรื่องของธาตุอาหารที่ไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องอาศัยการใส่ปุ๋ยเพื่อเพิ่มธาตุอาหารเหล่านั้นให้พืชสามารถเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งในปัจจุบันก็มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี เราจะพาคุณไปทำความรู้จักความแตกต่างของปุ๋ยทั้ง 2 ชนิดนี้ก่อนนำไปใช้ให้ถูกประเภท
ปุ๋ยอินทรีย์
เป็นปุ๋ยที่ช่วยบำรุงดินให้มีความโปร่ง ร่วนซุย และสามารถอุ้มน้ำและแร่ธาตุได้ดี อีกทั้งยังมีคุณสมบัติสะสมอยู่ในดินนานและค่อย ๆ ปล่อยธาตุอาหาร โดยใช้เวลาในการปลดปล่อยธาตุอาหารให้แก่พืชนานกว่าปุ๋ยเคมี ดินส่วนใหญ่มักจะได้มาจากธรรมชาติ เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ฯลฯ
ปุ๋ยเคมี
ปุ๋ยที่ได้จากการผลิตและการสังเคราะห์ทางอุตสาหกรรมเพื่อให้ได้แร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช ทำให้ปุ๋ยชนิดนี้มีข้อดี คือ มีปริมาณธาตุอาหารสูงและได้ผลเร็วกว่าปุ๋ยอินทรีย์ แต่มีข้อเสีย คือ ไม่ทำให้ดินโปร่งและร่วนซุยเหมือนกับปุ๋ยอินทรีย์ นอกจากนั้น ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนในรูปแบบของแอมโมเนีย หากใช้ในปริมาณมากและติดต่อกันนาน ๆ อาจทำให้ดินกลายเป็นกรดได้
วิธีใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อเข้าใจถึงความแตกต่างและข้อดี – ข้อเสียของปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์กันไปแล้ว คราวนี้มากันที่วิธีการใช้กันบ้าง โดยใช้วิธีการจากกรมวิชาการเกษตรการเกษตรตามหลัก 4 ถูก ดังต่อไปนี้
1. ใช้ปุ๋ยที่ถูกชนิด
- ปุ๋ยสำหรับรองพื้นปลูก ควรใช้ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารหลักครบ ซึ่งประกอบไปด้วยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม เพื่อช่วยให้พืชตั้งต้นได้ในระยะแรก
- ดินทราย ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมี
- ดินด่าง ควรเลือกใช้ปุ๋ย “แอมโมเนียมซัลเฟต” แทนการใช้ปุ๋ย “ยูเรีย”
2. ใช้ปุ๋ยให้ถูกปริมาณ
หากคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ดินที่ใช้มากพอ ควรเก็บตัวอย่างดินเพื่อส่งทำการวิเคราะห์จะทำให้ทราบได้ว่า อัตราปุ๋ยที่ต้องใช้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับความอุดมสมบูรณ์ของดิน และความต้องการของพืชเท่าไหร่
3. ใช้ให้ถูกเวลา
ต้องเว้นช่วงที่พอเหมาะเพื่อให้ปุ๋ยทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยหลัก ๆ จะแบ่งใส่ 2 – 3 ครั้ง คือ รองพื้นพร้อมปลูก และเมื่ออายุครบ 3 – 4 สัปดาห์
4. ใช้ปุ๋ยให้ถูกวิธี
วิธีการใช้ปุ๋ยอย่างถูกวิธี คือ ต้องใส่ในดินที่มีความชื้นพอเหมาะ ไม่เปียกหรือแห้งเกินไป โดยให้น้ำตามหลังจากการใส่ปุ๋ยบริเวณเขตรากพืช และพรวนกลบลงไปในดิน วิธีนี้จะเป็นการลดการสูญหายของธาตุอาหารโดยการระเหิดหรือการไหลบ่าไปกับน้ำ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ทั้งปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี ล้วนมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ก่อนนำไปใช้ควรศึกษาด้วยว่า เหมาะที่จะนำไปใช้ในการปลูกพืชชนิดใดบ้างร่วมด้วย เพื่อที่จะได้ใส่ปุ๋ยให้ถูกชนิดและช่วยให้พืชเจริญงอกงามได้อย่างยั่งยืน